กระผมคิดว่าจะไม่เขียนถึงกรณีนี้ เพราะเห็นว่าไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีในเรื่องปัญหา
ปาเลสไตน์
หรือการก่อการร้อยการเมืองและเหตุการณ์ในปัจจุบันที่อิสลามเข้าไปเกี่ยวข้อง
และยากที่จะเขียนออกมาออกมาแล้วจะไม่ถูกมองไปในแง่มุมต่างๆ
แต่เรื่องนี้ก็มีคนกล่าวถึงบ่อยๆในกรณีต่างๆบางทีก็ในแง่สนุก หรืออย่างอื่น
แต่ประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้ของท่านก็มีจริง
"ท่านนบีมุฮัมหมัด ซ.ล.
มีภรรยาหลายคนอันเป็นไปตามคำบัญชาของอัลเลาะฮ์ มิได้เกิดจากความมักมากทางกามรมณ์
หรือมีตัณหาราคะรุนแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้ด้วยเหตุสองประการคือ
1 ภาวะการมีภรรยาหลายคนของท่านนบีปรากฏขึ้น
หลังจากที่ท่านบรรลุวัยชราแล้ว คือ ท่านอายุเข้าวัย 50 ปี
2 บรรดาภรรยาทั้งหมดของท่าน เป็นหญิงหม้าย
มีอายุล่วงเข้าสู่วัยชราเช่นเดียวกัน ท่านมีภรรยาที่เป็นสาวโสดเพียงท่านเดียว คือ
นาง อาอิชะฮ์ รฎิยัลลอฮุอันฮา
ดังนั้นการที่มีผูใส่ใคล้ว่า
ท่านนบีแต่งงานเนื่องจากมีตัณหาราคะสูง
หรือต้องการสนุกสนานในทางเพศจึงไม่เป็นจริงแต่อย่างใด
ภรรยาของท่านนบีได้แก่
นางคอดีะฮ์ บินตุวัยลิด
เป็นภรรยาคนแรกของท่านนบี ก่อนหน้าที่นางจะแต่งงานกับท่านนบี นางได้แต่งงานกับ
ซะอด์ นางคอดีญะฮ์ มีบุตรกับ ซุอด์ 1 คน
ต่อมาได้ถึงแก่กรรม.....ขณะแต่งงานท่านนบีอายุ 25 ปี นางคอดีญะฮ์ อายุ 40 ปี
ท่านนบีอยู่กินกับนางเป็นเวลา 25 ปี ระหว่างที่นางมีชีวิตอยู่
ท่านนบีมิได้แต่งงานใหม่กับหญิงใดเลย จนกระทั่งนางถึงแก่กรรมขณะอายุได้ 65 ปี
ท่านนบีอายุ 50 ปี
นาง อาอิชะฮ์ ฯ
นางเป็นภรรยที่เป็นสาวโสดคนเดียวของท่านนบี (หลังจากที่นางคอดีญะฮ์จากไป)
นางรอมละฮ์ บินตะ อบีซุฟยาน
......ก่อนหน้านั้นนางแต่งงานกับอับดุลเลาะฮ์ อิบนิญะฮซ์
ทั้งสองได้อพยพไปเอธิโอเปีย และอับดุลเลาะฮ์ ได้เข้ารีตเป็นคริสเตียน
และได้ถึงแก่กรรมลง ส่วนนางปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาคริสต์
และยืนยันในการนับถืออิสลาม ท่านนบีจึงได้แต่งงานกับนาง
นางมารียะฮ์ อัลกิบฏียะฮ์ ซึ่ง มุเกากิส
กษัตริย์อียิป์ ได้มอบให้เป็นของขวัญ
.............บุตรของท่านนบีมี 7 คน ถึงแก่กรรมก่อนท่าน
นอกจาก ฟาติมะฮ์ ซึ่งถึงแก่กรรมหลังจากที่ท่านนบีถึงแก่กรรมได้ 6 เดือน
(ชีวประวัติ นบีมุฮัมหมัด ซ.ล. โดย
มุนีร(สมศักดิ์) มูหะหมัด น. 173-178)
เหตุผลบางประการที่ฉันอยากเสริมคือ
ผู้หญิงอาหรับแต่ก่อนนั้นจะมีความลำบากมาก หากสามีของนางตาย
และนางไม่มีใครคอยปกป้องดูแลนางและลูกๆ บางเงื่อนไขการแต่งงานก็เป็นเรื่องการเมือง
ก็เหมือนกับกษัตริย์โบราณเจริญไมตรีกันเหลือบๆมองดูรอบๆตัวเราซิ
มีประวัติศาสตร์ทำนองนี้มากมาย
และอันที่จริงท่านนบีในเวลานั้นก็ไม่ต่างจากกษัตริย์แห่งอารเบียหรอก
เพราะท่านคือผู้รวบรวมชนเผ่าอาหรับแห่งแหลมอารเบียทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ทั้งที่ไม่เคยมีการรวมกันมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์
และนี่คือประวัติ ของศาสนทูตมูฮัมหมัด
ศาสนทูตที่มุสลิมเชื่อว่าเป็นศาสนทูตองค์สุดท้านของโลกที่พระเจ้าส่งมา
แบบย่อๆแล้วนะ ท่านคือผู้ที่นำคัมภีร์ที่มุสลิมเชื่อตามที่ท่านว่า
เป็นดำรัสของพระเจ้าทั้งหมดทุกโองการมาสู่มนุษย์
เป็นคัมภีร์ที่ตั้งใจทำและเรียบเรียงเสร็จตั้งแต่ในยุคของท่านศาสดา
แม้ยังไม่มีกระดาษหรือระบบการพิมพ์ก็ตาม
เป็นคัมภีร์ที่ตกทอดรักษาและอ่านด้วยภาษาเดิม
ซึ่งมุสลิมยึดถือมิให้คงรูปแบบทุกถ้อยคำไม่ให้เปลี่ยนแปลง
ฉันจะนำคัมภีร์นี้มาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในลำดับต่อไป
และเมื่อถึงตอนนั้นจะได้หมดประเด็นที่ว่า ใครนำคัมภีร์นี้มา
และตกทอดมาสู่เราได้อย่างไร ฉบับนี้ฉันขอจบตรงนี้นะ
ฉบับหน้าเราจะพูดเรื่องใหม่กัน ในประเด็นของคัมภีร์
ขอพระเจ้าทรงเมตตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น